ต.ค. 192012
 

หากใครจำโฆษณาเมื่อหลายปีก่อนได้ (น่าจะมากกว่า10 ปี) ก็คงจะจำประโยคสุดขำที่ว่า “ก็ลมมันเย็น”ได้ดี สำหรับคนที่นึกออกก็คงร้องอ๋อ ใช่ครับมันคือโฆษณายาแก้ริดสีดวงทวารนั่นเอง  หากพูดถึงริดสีดวงทวาร นับว่าเป็นโรคที่สร้างความทุกทรมานให้คนเป็นจำนวนมาก ก่อนจะพูดถึงหัวข้อต่อไป ขออนุญาต พูดถึงโรคริดสีดวงทวารกันก่อนเล็กน้อย

   ริดสีดวงทวารคือ การที่เส้นเลือดดำ รอบๆทวารหนักเกิดการโป่งพองขึ้น ทำให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้น  ซึ่งอาการเริ่มต้นจะมีตั้งแต่คันที่ปากทวารหนัก จนไปถึงเจ็บทวารหนักเวลาขับถ่าย หรือบางทีมีเลือดปนมากับอุจจาระ  ลักษณะเป็นเลือดสดๆหลังการขับถ่าย จะว่าไปอาการค่อนข้างน่ากลัวนะครับ ใครที่เคยเป็นคงทราบถึงความทุกทรมานดี ส่วนสาเหตุที่เป็นนั้นส่วนใหญ่เกิดมาจากพฤติกรรมการขับถ่าย หรืออาการท้องผูกเรื้อรัง ทำให้ต้องใช้กำลังภายในในการเบ่งมาก (พูดเหมือนหนังจีนเลย)จึงทำให้เส้นเลือดดำบริเวณทวารหนักเกิดการโป่งพองจนกลายมาเป็นโรคริดสีดวงในที่สุด

เมื่อเรารู้จักโรคริดสีดวงทวารแล้ว เราก็มารู้จักกับทางแก้หรือทางรักษากันบ้าง ซึ่งมีอยู่สองทาง ทางแรกคือทานยา รายละเอียดผมไม่ขอกล่าว ส่วนอีกทางหนึ่งคือ การใช้สมุนไพรไทย ซึ่งสมุนไพรไทยที่จะแก้อาการนี้ได้แบบที่เรียกว่าได้ผลดีก็คือ “เพชรสังฆาต”นั่นเองครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามารู้จักสมุนไพรชนิดนี้กันเลย

เพชรสังฆาตชื่อทางวิทยาศาสตร์  Cissus quadrangulalis L.

ชื่อวงศ์  TITACEAE

ชื่ออื่นๆ สันชะควด สามร้อยข้อ พญาร้อยปล้อง (สองชื่อหลังนี้บ่งบอกลักษณะของเพชรสังฆาตได้ดีมากๆ)

ลักษณะโดยทั่วไปของเพชรสังฆาต

  • ลำต้น  เพชรสังฆาตนั้นมีลักษณะเป็นไม้เถาเลื้อย อวบน้ำ ลำต้นเป็นปล้องยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ลักษณะจะเป็นเหลี่ยม มีมือเกาะตรงข้อ ใช้ยึดเกาะ บางข้อก็จะเป็นลักษณะ รากอากาศงอกออกมา
  • ใบ  ลักษณะใบจะเป็นใบเดี่ยว ออกข้อละ 1 ใบ  ดอกจะมีขนาดเล็ก สีแดง ออกตรงข้ามใบ
  • ผล  เพชรสังฆาตมีผลขนาดเล็กออกตรงโคนกลีบดอก เมื่อสุกจะสีแดง สุกมากๆจะมีสีดำ

การใช้เป็นยาสมุนไพรไทย

วิธีการใช้รักษาโรคริดสีดวง จะใช้เพชรสังฆาตสดหนึ่งปล้อง  แต่เนื่องจาก เพชรสังฆาตมีรสขม และคันคอมาก หากรับประทานไปตรงๆ ปากอาจจะพองได้ แถมยังคันคอมากอีกด้วย คล้ายกับเวลาเราทานพืชจำพวกบอน ฉะนั้นจึงแนะนำให้ ตัดเถาสดเป็นปล้องเล็กๆ ปล้องละ 1 เซนติเมตร หุ้มด้วยกล้วยสุก หรือมะขามเปียก แล้วกลืนวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็นหลังอาหาร โดยให้ทานติดต่อกัน 10 วันจึงจะเห็นผล ถ้ายังไม่หายดี หรือหายขาด แนะนำ ให้ทานต่ออีก 5 วัน

อีกวิธี เป็นวิธีการใช้เพชรสังฆาต แบบแห้ง โดยให้ใช้เพชรสังฆาตไปตากแห้ง จากนั้นนำมาบดใส่แคปซูลเบอร์ 2 (หาซื้อได้ตามร้านขายยา) จะได้ผงยานี้ 250 มิลลิกรัม โดยให้รับประทานครั้งละสองแคปซูล วันละ 4 ครั้งก่อนอาหาร และ ก่อนนอน โดยรับประทานติดต่อกัน 1 สัปดาห์ อาการจะดีขึ้น ถ้าเริ่มหายดีแล้ว ให้รับประทานติดต่อกันอีก 7 วันจะทำให้หายขาด

เป็นยังไงบ้างครับกับวิธีการรักษาริดสีดวงทวารโดยใช้สมุนไพรไทยที่ชื่อ เพชรสังฆาต น่าสนใจไหม สุดท้ายของฝากนิดนึง หากใครเป็นโรคริดสีดวงทวารแล้วรักษาหาย ไม่ว่าจะทานยา หรือใช้สมุนไพรก็ตาม ท่านยังมีโอกาศที่จะกลับมาเป็นอีก แนะนำวิธีป้องกันที่ได้ผลดีที่สุดคือ ให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมด้านการขับถ่าย โดยขับถ่ายให้สม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ รับรอง ริดสีดวงทวารจะไม่กลับมาหาท่านอีก