wasinee tantiveerabut

Jan 172019
 
สมุนไพรไตวาย

สมุนไพรไตวาย

 

            จะว่าไปแล้ว โรคภัยไข้เจ็บ ไม่เข้าใครออกใครเลยจริงๆ บทจะเป็นก็เป็นกันได้ง่ายๆ โดยเฉพาะโรคร้ายแรง ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งแน่นอนไม่มีใครปรารถนาที่จะเจ็บป่วยหรอก แต่หากเป็นแล้ว คงต้องเริ่มหาวิธีป้องกันและรักษาให้อาการดีขึ้นมากที่สุด ในที่นี้ เราจะมาพูดถึง โรคที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่ง นั่นก็คือ โรคไตวาย ซึ่งเกิดจากไตสูญเสียการทำงาน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ส่งผลให้การควบคุมสมดุลของเสียในร่างกายเกิดการเสียหาย จนเกิดอาการไตวาย 2 รูปแบบ นั่นก็คือ ไตวายแบบเรื้อรัง ซึ่งต้องฟอกเลือก ล้างไต ปลูกถ่ายไต และไตวายแบบเฉียบพลัน ซึ่งไตสูญเสียหน้าที่ไปชั่วคราว หากปล่อยไว้นานๆ อาจทำให้เรื้อรังถึงแก่ชีวิตได้

หากใครยังไม่ได้เป็นโรคไตวาย หรือ กำลังเริ่มเป็น นอกจากจะให้แพทย์รักษาตามอาการแล้ว ยังมีสมุนไพรที่ช่วยปกป้องไตให้แข็งแรงอีกด้วย แต่จริงๆแล้ว ก็ยังไม่มีสมุนไพรชนิดไหน ที่รับรองว่า จะช่วยรักษาอาการโรคไตให้หายได้ เพราะบางสมุนไพร ถ้ารับในปริมาณมากเกินไป ก็มีอันตรายต่อร่างกายได้เช่นกัน โดยโรคไตวายในปัจจุบัน ต้องใช้การรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น  เราจึงอยากจะมาแนะนำสมุนไพรที่ช่วยบำรุงไตบางชนิดให้ได้รู้จักกัน ว่ามีสมุนไพรใดน่าสนใจและกินได้อย่างปลอดภัยบ้าง มาเริ่มกันเลย…

  1. กระวาน เป็นสมุนไพรที่ช่วยกำจัดพิษออกจากกระแสเลือด และในทางอ้อม สามารถช่วยบำรุงไตได้ เมื่อนำมาต้มดื่ม เพราะจะช่วยลด ของเสียในเลือด ทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป
  2. งาขาว เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต หากต้มกินบ่อยๆ จะช่วยขับเลือกเสียออก และทำให้ไตทำงานน้อยลง ลดภาระการทำงานของไต ทำให้ชะลอการเสื่อมของไตได้เป็นอย่างดี
  3. ขิง สมุนไพรที่หาทานได้ง่าย ช่วยบำรุงไต และลดบาดแผล การอักเสบในไต ช่วยขับปัสสาวะ สลายนิ่ว และกำจัดสารพิษที่ตกค้างได้
  4. หญ้าใต้ใบ มีสรรพคุณที่หลากหลาย แต่ในของเรื่องไต สามารถกระตุ้นสมรรถภาพของไต ให้ทำงานดีขึ้นได้
  5. ผักชี ถือเป็นสมุนไพร ที่นำมาประกอบอาหารได้แทบทุกเมนู ช่วยปกป้องไตไม่ให้เกิดอาการผิดปกติ และช่วยลดความเสียหายของไตได้
  6. เห็ดหอม มีสารอาหารมากมาย เช่น เส้นใยอาหาร วิตามินบี คาร์โบไฮเดรต โปรตีน สังกะสี แมกนีเซียม และวิตามินดี ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องโรคไตได้
  7. เห็ดหลินจือ มีสารประกอบที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น เส้นใยอาหาร โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุบางชนิดอย่างแคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เซเลเนียม ธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง เป็นต้น ซึ่งช่วยชะลออาการเสื่อมของไตได้ดี
  8. ลูกหม่อน สามารถกินสดได้ทั้งผล มีสารอาหารจาก วิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์สูงมาก ทำให้ช่วยบำรุงไตได้ดีมาก และแก้อาการอักเสบของเนื้อไตได้ด้วย
  9. กระเจี๊ยบแดง ดอกสีแดงสดของกระเจี๊ยบ สามารถช่วยฟอกเลือด บำรุงไตได้ และยังช่วยขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วในไตได้อีกด้วย
  10. ใบบัวบก เหมาะกับคนที่เป็นโรคไต เพราะมีสารปกป้องที่เกี่ยวข้องกับระบบโลหิต ช่วยลดความดันโลหิตสูง เพิ่มความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด และป้องกันเส้นเลือดฝอยแตกได้ดี ทำให้ทำงานร่วมกับระบบเลือดของไตได้เป็นอย่างดี

และทั้งหมดนี้ ก็เป็น 10 สมุนไพรที่เราเอามาแนะนำ เหมาะกับการบำรุงรักษาไตโดยเฉพาะ ซึ่งอย่างที่บอกไป สมุนไพรเหล่านี้ เป็นเพียงสมุนไพรที่ใช้บำรุงไต ปกป้องไตให้แข็งแรง และทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า จะช่วยรักษาโรคไตวายให้หายขาด ดังนั้น ควรจะบริโภคในปริมาณที่พอดี เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียง และหากจะต้องรับประทานผลิตภัณฑ์ที่สกัดสมุนไพร หรือพวกอาหารเสริม ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ สำหรับผู้ป่วยโรคไตวาย ควรดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี และเข้ารับการรักษาจากแพทย์ ทำตามคำแนะนำอย่างเหมาะสม เพื่อที่จะช่วยให้สุขภาพของตัวเอง ปลอดภัย ไม่เกิดอาการกำเริบรุนแรงใดๆ และมีสุขภาพดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Nov 152018
 
สมุนไพรกำจัดเสมหะ,อ้อย,มะขามป้อม,มะแว้ง

สมุนไพรกำจัดเสมหะ,อ้อย,มะขามป้อม,มะแว้ง

 

เสมหะ หรือสเลด นั้นเป็นสารคัดหลั่ง ที่ร่างกายผลิตขึ้นมาเมื่อต้องเผชิญกับภาวะโรคบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหวัด โรคไซนัส และโรคภูมิแพ้ เมื่อมีสเลดนั้นจะทำให้หายใจ หรือพูดไม่สะดวก ต้องคอยถ่มสเลดทิ้งเป็นประจำ ซึ่งอาจทำให้ดูไม่ดีนัก อย่างไรก็ตามเราสามารถจัดการกับเจ้าเสมหะตัวร้าย ด้วย 3 สุดยอดสมุนไพรดังต่อไปนี้

  1. น้ำอ้อยสด เป็นน้ำที่คั้นมาจากอ้อย ดังนั้นจึงรสชาติที่หวาน ชุ่มคอ สำหรับสรรพคุณของน้ำอ้อยนั้น จะช่วยขับเสมหะ ช่วยคลายเครียด ลดอาการร้อนใน เป็นต้น ซึ่งน้ำอ้อยสดนั้นหาดื่มได้ไม่ยาก เพราะปัจจุบันนี้ก็มีขายกันทั่วไปอยู่แล้ว การดื่มน้ำอ้อยสด แนะนำไม่แนะนำให้ดื่ม (หรือที่เรียกว่าเกล็ดหิมะ) หากดื่มเป็นประจำ เสมหะจะค่อยๆ หายไปค่ะ
  2. มะขามป้อม สมุนไพรรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ที่มีสรรพคุณ ในการจัดการกับอาการเจ็บคอ หวัด ช่วยขับเสมหะ สำหรับมะขามป้อมนั้นนิยมนำมารับประทานกันแบบสดๆ หรือนำมาต้มดื่ม จะช่วยขับเสมหะออกไปได้ นอกจากนั้นหากมีอาการเจ็บคอ หรืออาการไอเรื้อรังร่วมด้วย ให้รับประทานเป็นประจำ จะช่วยลดอาการดังกล่าวลงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
  3. มะแว้ง สำหรับมะแว้งนั้นก็เป็นอีกหนึ่งสมุนไพร ที่มีสรรพคุณในการช่วยขับเสมหะ โดยมันมีฤทธิ์ช่วยป้องกันการอักเสบในลำคอ ช่วยทำให้เกิดความชุ่มคอ ลดอาการไอเรื้อรัง เจ็บคออันเนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ กันไม่ว่าจะเป็นโรคหวัด ไซนัส เป็นต้น การรับประทานมะแว้งนั้นสามารถกินแบบสดๆ ได้เลย แต่ค่อนข้างจะมีรสชาติที่ขมเฝื่อน ดังนั้นจึงนิยมรับประทานกันแบบสำเร็จรูป คืออยู่ในรูปของสมุนไพรที่ผ่านการแปรรูปแล้ว ซึ่งมีขายทั่วไปกันมากกว่านั่นเอง

สมุนไพรจะเห็นผลได้ดี ก็ต่อเมื่อผู้ใช้สมุนไพรนั้นๆ ดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตนเองเป็นอย่างดีเช่นกัน

 

 

Nov 072018
 

กระแสแรง น้ำลำไย ประโยชน์ดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

ลำไยแห้ง, ลำใยแห้ง, สมุนไพร น้ำลำไย, สรรพคุณลำไย, วิธี น้ำลำไย

            ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา หลายๆคนคงคุ้นหูคุ้นตา กับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อหนึ่ง ที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมกับพรีเซนเตอร์ซึ่งเป็นพระเอกชื่อดัง โดยผลิตภัณฑ์นี้ คือ เครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ที่สกัดมาจากลำไยธรรมชาติ สูตรเข้มข้น ผลิตและจัดจำหน่ายโดยแบรนด์กาแฟชั้นนำของไทย ซึ่งถือได้ว่า เปิดตัวมาด้วยกระแสที่แรงมาก  มีคนสนใจสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายมากมาย ทำให้เราคิดว่า น้ำลำไย ผลไม้ที่เรามองข้ามมันอยู่บ่อยๆ ว่าจะมาบำรุงร่างกายได้อย่างไร แต่วันนี้ มันก็ได้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมแล้ว เพราะแนวคิดของทางผู้บริหารเอง ได้ทำการวิจัยกับมหาวิทยาลัยกว่า 5 ปี และพบว่า ลำไย เป็นสมุนไพรรักษาโรคได้ ช่วยให้การนอนดีขึ้น และยังควบคุมความดันโลหิตอีกด้วย

จากกระแสเปิดตัวน้ำลำไย บำรุงสุขภาพชนิดเข้มข้นนี้ ทำให้เราสนใจที่จะรู้จักกับน้ำลำไยมากขึ้น ว่ามันมีประโยชน์ดีๆ ที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างไรบ้าง เรามาดูข้อดีของดื่มน้ำลำไยกันเลย

รู้จักลำไย เป็นยังไง!!

            ลำไย จัดได้ว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ และยังสามารถเรียกมันให้เป็นสมุนไพรชั้นดี ชนิดหนึ่งอีกด้วย โดยลำไย เป็นที่นิยมในการรับประมานมากในบ้านเรา ปลูกมากที่สุดในจังหวัดลำพูน และในประเทศจีนมีปลูกถึง 26 สายพันธุ์ แทบไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าสายพันธุ์ของลำไยจะเยอะขนาดนี้ ลำไยที่มีผลขนาดใหญ่ จะมีรสชาติหวานอร่อย

ในลำไย เต็มไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารจำนวนมาก ทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโซเดียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุทองแดง ธาตุเหล็ก วิตามินซี วิตามินบี 12 เป็นต้น

สรรพคุณที่น่าทึ่งของลำไย

            อันที่จริงแล้ว หากเจาะลึกไปถึงสรรพคุณของลำไย ถือว่ามีมากเลยทีเดียว ใครจะรู้ ว่าลำไย จะกลายมาเป็นสมุนไพรที่สกัดสารอาหาร และการบำรุงรักษาร่างกายได้มากขนาดนี้ ซึ่งเราได้รวบรวมสรรพคุณเด่นๆ มาฝากกัน ดังนี้

  • ลำไย มีส่วนช่วยให้สมองผ่อนคลายจากความตึงเครียด ช่วยให้หลับสบาย ลดความวิตกกังวลได้ดี
  • ช่วยให้ร่างกายเจริญอาหาร แก้อาการเบื่ออาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของการทำให้สุขภาพทรุดโทรม
  • เป็นยาบำรุงม้าม เลือดลม หัวใจ บำรุงร่างกาย รักษาอาการอ่อนเพลีย
  • มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็ง
  • ช่วยลดอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดขาว
  • มีฤทธิ์ช่วยต้านเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
  • ช่วยลดการเสื่อมสลายของข้อเข่า
  • มีวิตามินบี 12 ในลำไยมีส่วนช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
  • มีแคลเซียมสูง ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
  • มีฟอสฟอรัส ช่วยบรรเทาอาการปวดจากข้ออักเสบได้
  • มีโซเดียม ช่วยให้เส้นประสาทและกล้ามเนื้อทำงานได้อย่างเป็นปกติ
  • มีโพแทสเซียม ช่วยให้จิตใจสดใส ไม่กระสับกระส่าย สมองดี ปรอดโปร่ง เพราะจะส่งออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง และมีธาตุเหล็กซึ่งช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย
  • มีแร่ธาตุทองแดงที่มีส่วนช่วยเติมพลังงานให้กับร่างกาย
  • ช่วยบำรุงประสาทตาและผิวพรรณได้ด้วย

 

น้ำลำไย สมุนไพรที่ทำกินได้เองง่ายๆ

      เอาล่ะ มาถึงตรงนี้ หากใครไม่นิยมซื้อผลิตภัณฑ์น้ำลำไยมาดื่ม เราก็สามารถทำดื่มเองได้ด้วยนะ ทำกันสดๆ ได้รสชาติน้ำลำไยตามที่ต้องการ โดยมีวิธีการง่ายๆ ดังนี้

  1. เทน้ำเปล่า ลงในหม้อต้ม ในสัดส่วนที่พอดี แล้วตั้งไฟไว้ระดับกลาง จากนั้น ใส่เนื้อลำไยอบแห้งลงไป
  2. รอน้ำเดือด ให้ใส่น้ำตาลทรายลงไป จะหวานมาก หวานน้อย อยู่ที่เราต้องการ คนจนน้ำตาลละลาย แล้วเคี่ยวต่อด้วยไฟกลาง จนน้ำมีส่วนผสมที่เข้ากัน
  3. ปิดไฟ และพักน้ำลำไยให้เย็น หรืออยากดื่มแบบอุ่นๆก็ได้ แต่หากใครอยากเย็นชื่นใจ ก็ใส่น้ำแข็งบดละเอียดลงไปเลย

เป็นยังไงกันบ้าง กับน้ำลำไยกระแสแรง ที่ไม่ว่าจะบริโภคเป็นผลิตภัณฑ์สกัดสำเร็จรูป หรือ จะนำลำไยอบแห้งมาต้มกินเอง ก็สามารถรับคุณประโยชน์ดีๆ จากน้ำลำไยได้เพียบ รู้แบบนี้แล้ว ลองหันมามองน้ำลำไยกันดู อย่างน้อย ดื่มแล้ว ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ผ่อนคลายอารมณ์ได้แน่นอน.

Oct 272018
 
สมุนไพร กระเทียม น้ำมันมะกอก

สมุนไพร กระเทียม น้ำมันมะกอก

https://pixabay.com/th/ขนมปัง-น้ำมันมะกอก-กระเทียม-3571268/

สมุนไพรนั้นเป็นของใกล้ตัวของคนไทย นอกจากจะนำมาใช้ในการประกอบอาหารแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมาย มีเอกสารการวิจัยรองรับทั้งในและต่างประเทศด้วย ทำให้เรามั่นใจในการนำสมุนไพรมาสกัดหรือนำมาปรุงเป็นยามากยิ่งขึ้น อย่างเช่นสมุนไพรในครัวเรือน เช่น เหง้ากระชาย น้ำมันมะกอก มะนาว ขิง เป็นต้น ซึ่งวันนี้เรามีสรรพคุณของสมุนไพรทั้ง 4 ชนิดโดยอ้างอิงงานวิจัยมาให้ดูกัน

ดร.แคทรียา สุทธานุช นักวิจัยของศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับเหง้ากระชายดำ โดยค้นพบว่าในเหง้ากระชายดำมีสารบริสุทธิ์ 11 ชนิด ซึ่งเป็นสารในกลุ่มเมทอกซีฟลาโวน มีรายงานต้านการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหาร สารสกัดจากกระชายดำมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อจุลชีพในช่องปากและทางเดินอาหาร

ผศ. ดร. ปิน ซวี จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทคและวารสารสมาคมเคมีแห่งอเมริกา กล่าวว่า สารประกอบในน้ำมันมะกอกอย่าง โอรียูโรฟีอีน มีส่วนช่วยกระคุ้นการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานการเผาผลาญของน้ำตาลในเลือด และยับยั้งพิษจากเซลล์ที่เกิดจากโมเลกุลอะมีลิน ซึ่งพบในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง

สมุนไพร ขิง ชามะนาว

สมุนไพร ขิง ชามะนาว

https://pixabay.com/th/ขิง-มะนาวร้อน-ชา-มะนาว-หิมะ-1918107/

น.ส.ชลิดา ภาวนาเกษมศานต์ พยาบาลชำนาญการ โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ได้นำน้ำอุ่นผสมมะนาวเช็ดตัวเพื่อลดไข้ให้ผู้ป่วย โดยนำมะนาวมากดในน้ำอุ่นและผ่าครึ่งแล้วบีบน้ำมะนาวออกมาแล้วนำมาเช็ดตัวในผู้ป่วยเด็ก ในกลุ่มที่ได้รับการเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นผสมมะนาว สามารถลดอุณหภูมิในร่างกายได้มากกว่ากลุ่มที่เช็ดด้วยน้ำอุ่นธรรมดา เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่ามะนาวมีส่วนช่วยลดไข้ได้จริง

ขิง สมุนไพรชนิดหนึ่งที่ทุกคนรู้จักกันดี มีสรรพคุณมากมาย ในตำรายาไทย เราใช้เหง้าขิงในการรักษาท้องอืด ท้องเฟ้อได้ แก้ท้องเสีย ขิงแห้งยังมีสรรพคุณแก้ไข้ แก้ไอขับเสมหะ เป็นต้น ส่วนในตำราเภสัชของจีนจะใช้ทั้งขิงแห้งและขิงสด ขิงแห้งจะช่วยสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายและช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ส่วนขิงสด จะช่วยขับพิษออกมาทางเหงื่อได้

จะเห็นได้ว่า สมุนไพรทั้ง 4 ชนิดนั้นหาได้ง่ายๆในครัวของเราเอง แต่ละชนิดนั้นมีสรรพคุณที่แตกต่างกัน แต่รับรองเลยว่าหากใครได้ทานแล้ว จะเอื้อประโยชน์ให้กับร่างกายและเสริมสร้างสุขภาพของคุณให้แข็งแรงขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามการทานสมุนไพรนั้นต้องทานในปริมาณที่เหมาะสม จึงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพได้จริง และที่สำคัญอย่าละเลยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอด้วย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่คู่กับคุณไปแสนนาน

อ้างอิงงานวิจัย

http://www.bangkokbiznews.com/pr/detail/31776 (น้ำมันมะกอก)

https://gs.kku.ac.th/home/images/news/kanokaward/2553.pdf (เหง้ากระชายดำ)

https://www.hsri.or.th/people/media/care/detail/5806 (มะนาว)

https://www.disthai.com/16488302/ขิง