นอกจากประโยชน์ของข่าในการใช้ประกอบอาหารแล้วนั้น ประโยชน์อย่างหนึ่งที่คนไม่รู้กันคือช่วยในการบรรเทาโรคผิวหนัง และลมพิษต่างๆ จัดว่าเป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์มากทีเดียว
ข้อมูลทั่วไป
ข่า
ชื่อวิทย์ Alpinia nigra (Gaertn.) B.L.Burtt
ชื่อวงศ์ Fam. : ZINGIBERACEAE
ชื่ออื่น
ข่า ข่าใหญ่ ข่าหลวง ข่าหยวก (ภาคเหนือ)
กุฏกกโรหินี เสะเออเคย (แม่ฮ่องสอน)สะเชย (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะทั่่วไป
ต้น เป็นพรรณไม้ลงหัวจำพวก กะวาน เร่ว กะลา จะลงหัวใหญ่ขาวอวบอ้วน เป็นพรรณไม้ที่ชอบขึ้นตามที่ลุ่ม
ใบ จะมีลักษณะรูปไข่ยาว จะออกสลับกันรอบ ๆ ลำต้นบนดิน ซึ่งจะเป็นกาบของใบหุ้ม ลำต้น ใบคล้ายพาย
ดอกเป็นช่อมีขาวแต้มด้วยสีแดงเล็กน้อย
ดอก จะออกเป็นช่อตรงปลายยอด และดอกช่อนั้นก็จะจัดอยู่ด้วยกันอยู่อย่างหลวม ๆ ช่อที่ยังอ่อนจะมีกาบ
สีเขียวอมเหลืองหุ้มมิด (spathe) ส่วนดอกสีขาวอมสีม่วงแดงนั้นจะบาน จากข้างล่างขึ้นข้างบน
ผล มีลักษณะกลมโตและมีขนาดเท่าเม็ด บัว เมื่อแก่จะมีสีดำและมีเม็ดเล็ก ๆ อยู่ภายใน จะมีรสขม เผ็ดร้อน
การขยายพันธุ์ ข่าจะปลูกด้วยเหง้า หรือหน่อจะปลูกได้ทุกฤดูกาล โดยการแยกปลูกเป็นหลุม ๆ ละต้น ปลูกห่างกันราว ๆ
80 ซม. เผื่อให้มันแตกกอ และปลูกง่ายไม่มีศัตรูพืชรบกวน
ส่วนที่ใช้ เหง้าอ่อน และแก่
สรรพคุณ ของพืชสมุนไพร ชนิดนี้
เหง้า เหง้าแก่ นำมาตำให้ละเอียด ใช้ทาบริเวณที่เป็นโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ใช้เป็นยารักษาภายนอก หรือจะตำใช้ทำกระ สายเป็นเหล้าโรง ทารักษาอาการคันในโรค ลมพิษ ทาบ่อย ๆ จนกว่าลมพิษนั้นจะหายไป