“ยาเสพติดเป็นภัยต่อชีวิตเป็นพิษต่อสังคม !” ประโยคนี้เป็นจริงไม่แปลกปลอมแน่ๆ โดยเฉพาะในรอบอาทิตย์ที่ผ่านมา เฉพาะข่าวดังๆ ก็มีอยู่ 2 เรื่อง ที่ฮือฮาในโลกออนไลน์และในหน้าข่าวของสื่อต่างๆ เริ่มจากวันที่ 23 พ.ค. มีวัยรุ่นเสพยาบ้านับร้อยเม็ดขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้าไปในห้างเทสโก้ โลตัสสาขาสุวินทวงศ์ มีนบุรี ในอาการเมายาพูดจาไม่รู้เรื่อง จนถูกเจ้าหน้าที่และพลเมืองดีกรูเข้าจับตัวเอาไว้ และตามมาด้วย วันที่ 29 พ.ค. ที่มีวัยรุ่นสูดดมสารระเหย ดมกาว จนเมาหนัก ใช้ท่อนเหล็กบุกทุบตู้ ATM ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวตู้มูลค่ารวมสองแสนบาท !
ทั้งสองรายนี้เหมือนกันคือ ลงมือกระทำความผิดลงไปเนื่องจากเกิดอาการขาดสติจากยาเสพติดที่เสพเข้าไป ซึ่งบางท่านก็อาจจะดูว่ามันยังไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าไหร่นัก เพราะไม่มีใครบาดเจ็บหรือเป็นอะไร แต่… มันเป็นการแสดงให้เห็นว่า มีการเสพยาที่สามารถลงมือทำเรื่องราวใดๆ ในอาการขาดสติที่พบได้ง่าย ! ซึ่งหากว่าเปลี่ยนจากการลงมือกับตู้หรือทำห่ามๆ อย่างขี่มอเตอร์ไซค์วนไปเรื่อยภายในห้าง ก็คงเป็นเรื่องที่อันตรายไม่น้อย… ดังนั้นต้องหาทางควบคุมและจัดการโดยเร็ว !
กลับมาที่เรื่องสมุนไพรของเรา… อาการเมายาหืออาการติดยาเสพติด ทางแพทย์แผนโบราณถือเป็นการได้รับพิษเข้าสู่ร่างกาย สามารถบำบัดรักษาได้ด้วยการใช้สมุนไพรในการขับพิษออกไปเสียให้สิ้น ซึ่งแน่นอนว่าในทางแพทย์สมุนไพร ราชาของการถอนพิษร้ายทั้งหลายในร่างกายของคนเราก็คือ รางจืด
รางจืด เป็นสมุนไพรที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณในการถอนพิษจากสิ่งต่างๆ เป็นยาเย็น สามารถขับพิษเบื่อเมาทุกชนิดออกไปได้ สามารถใช้ในผู้เสพยาทำให้พิษจากสารตกค้างในร่างกายที่เป็นผลมาจากยาเสพติดถูกขับออกไป ลดอาการอยากยาอย่างได้ผล และเป็นผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ที่บ่งชี้ว่า มันมีสรรพคุณต่อต้านอาการติดยาเสพติดได้จริง ! เพราะรางจืดมีผลกระตุ้นประสาทคล้ายกับโคเคน เมื่อได้รับรางจืด ทำให้ผู้ป่วยคลายอาการอยากยาเสพติด เนื่องจากมีสิ่งทดแทน และยังขับพิษในร่างกายไปในตัว
สรรพคุณของรางจืดไม่ได้มีเพียงการใช้ในผู้ป่วยติดยาเสพติดเท่านั้น แต่ยังใช้ถอนพิษได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสารพิษที่กินเข้าไป หรือแม้แต่พิษของแมลงและสัตว์สามารถใช้รางจืดได้ทุกอย่าง
การใช้งานสามารถใช้ต้นสดนำมาทำเป็นยา หรือหากต้องการเพิ่มความสะดวกก็นำไปทำเป็นสมุนไพรแห้ง บดเป็นผง สามารถนำมาใช้งานได้ผลดีเช่นเดียวกัน จะใช้ชงเป็นชาดื่มเป็นประจำก็ได้อีกด้วย