สมุนไพรไทยของเรามีอยู่หลายชนิด วันนี้เรามีสมุนไพรชนิดหนึ่
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tinospora crispa (L.)Miers ex Hook.f.& Thomson ชื่อยาวมาก ไว้วันหลังจะพูดถึงหลักการตั้
และพืชอื่นๆให้ฟังนะครับ)
เป็นพืชวงศ์ Menispermaceae
ชื่ออื่นๆตามภูมิภาค เถาหัวด้วน (ภาคกลางแถวสระบุรี) หางหนู จุ่มจะลิง (ภาคเหนือ) เจตมูลหนาม(ภาคอิสาน หนองคาย) เครือกอฮอร์ (ภาคอิสาน อุดรธานี)
ลักษณะทั่วไปของบอระเพ็ด
เป็นไม้เถาเลื้อย เถาค่อนข้างกลมขนาดของเถาเส้นผ่
สรรพคุณทางด้านสมุนไพรไทย
ราก ถอนพิษไข้
ต้น ลดไข้เช่นเดียวกับราก บำรุงธาตุ ช่วยเจริญอาหาร ปรับสมดุลในร่างกาย นอกจากนี้ตามตำราสมุนไพรไทยกล่
วิธีใช้บอระเพ็ดเป็นยาอายุวัฒนา
เนื่องจากว่าส่วนต้นของบอระเพ็ด มีความขมมาก จะรับประทานสดสด คงไม่ไหม ต้องมีวิธีปรุงยาสมุนไพรไทยก่อน ขอแนะนำสามวิธีดังนี้
1. ใช้เถาบอระเพ็ดหั่นแล้วตากแห้ง จากนั้นบดเป็นผงผสมน้ำผึ้ง ปั้นเป็นลูกกลอน รับประทานก่อนนอนวันละ 3-5 เม็ด
2. สำหรับคนที่ไม่แพ้แอลกลอฮอร์ ใช้เถาสดดองเหล้า โดยจะใช้บอระเพ็ดสดประมาณ 2 ขีดหั่นเป็นข้อใส่ในโถเหล้า ส่วนการดื่มให้ดื่มครั้งละ 1 ถ้วยชาก่อนอาหารเย็น
3. วิธีนี้ง่ายที่สุด คือนำบอระเพ็ดตากแห้ง แล้วนำมาบดใส่แคปซูล ทานวันละ 2-3 แคปซูลโดยทานก่อนอาหารเช้า เย็น (อาจทานเช้าเย็น มื้อละแคปซูล หรือเช้า 1 เย็น 2 ก็ได้)
วิธีใช้บอระเพ็ดเป็นยาบรรเทาไข้ ลดความร้อน
- ใช้เถาแก่สด หรือต้นสด ประมาณ 15-20 เซนติเมตร (30-40 กรัม) ตำให้แหลกและคั้นเอาน้ำดื่ม (อย่าลืมใส่ถุงมือตอนคั้นนะครับ ขมติดมือไม่รู้ด้วย )หรือต้มกับน้ำโดยใช้ น้ำ 3 ส่วน ต้มเคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน ดื่มวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า-เย็น หรือเวลามีอาการ
- ใช้เถาสด ดองเหล้าโรง แนะนำ 20 ดีกรีก็พอ รับประทานเพียงครั้งละ 1 ช้อนชา
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของบอระเพ็ด ใครเลยจะรู้ว่าเจ้าสมุนไพรอย่างบอระเพ็ดเอง อาจเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ก็อาจเป็นได้
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของบอระเพ็ด ใครเลยจะรู้ว่าเจ้าสมุนไพรอย่างบอระเพ็ดเอง อาจเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ก็อาจเป็นได้