สมุนไพร บรรเทาอาการไม่สบาย เป็นหวัด เป็นไข้

 ลดไข้  ปิดความเห็น บน สมุนไพร บรรเทาอาการไม่สบาย เป็นหวัด เป็นไข้
มี.ค. 282016
 

เป็นข่าวที่น่ายินดี เมื่อปรากฏว่ามีฝนตกลงมาในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งมาได้จังหวะให้กำลังคนไทยที่กำลังรู้สึกว่ากำลังเผชิญปัญหาภัยแล้ง อย่างเช่นที่ สุพรรณบุรี ถึงขั้นแห่นาคกันกลางสายฝน แบบเย้ยฟ้าท้าอากาศ เป็นการแสดงออกถึงความสุขความพอใจที่ฝนหยาดโปรดลงมาให้ได้สัมผัส เป็นครั้งแรกในรอบปี ! ส่วนที่พัทยา ก็มีพายุฤดูร้อนที่ทำเอาฝนตกนานเป็นชั่วโมง และยังมีที่อื่นๆ ที่มีฝนตกลงมาด้วย ก็ถือว่าทำให้คนในหลายพื้นที่ใจชื้นขึ้น เมื่อฝนหลั่งลงมารดแผ่นดินให้หายแห้ง หลังจากมีสภาพภัยแล้วเกิดมานานหลายเดือน…

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะการไม่มีน้ำเป็นอะไรที่น่าวิตกกังวลมาก แต่อย่างไรก็ตาม หากมองในมุมเรื่องของสุขภาพ การที่ฝนกระหน่ำลงมา แบบฉับพลัน เป็นเรื่องที่ทำให้คนเราเจ็บไข้ได้ป่วยได้เช่นกัน เนื่องเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ร่างกายปรับตัวรับสภาพไม่ทันทำให้เกิดการเจ็บป่วย ซึ่งเรื่องนี้เราสามารถใช้สมันไพรในการป้องกันและบรรเทารักษาอาการได้ เป็นเรื่องที่ควรเตรียมและหาความรู้เอาไว้เนิ่นๆ รับมือยามสภาพอากาศเปลี่ยน และสามารถใช้ได้ทุกฤดูหากมีอาการเจ็บป่วย

พืชสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการไม่สบาย เป็นหวัดเป็นไข้ มีอยู่หลายอย่าง เช่น

ตะไคร้แห้ง หวัด

ตะไคร้แห้ง หวัด

 

 

ตะไคร้ มีน้ำมันหอมระเหยที่สามารถใช้ลดอาการเป็นหวัดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราสามารถนำมาต้มน้ำสูดดมไอระเหย หรืออาจจะนำมาเป็นส่วนผสมของอาหาร หรือแม้แต่ใช้ตะไคร้แห้งนำมาชงดื่มเป็นชาสมุนไพรก็ได้

 

 

กระเทียม เป็นสมุนไพรอีกชนิดที่น่าใช้ในเวลาที่มีอาการเป็นไข้หวัด เจ็บคอ เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี ทำให้ไข้ลด ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ บำรุงร่างกาย ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น หากไม่ชอบกลิ่น สามารถเลือกรับประทานกระเทียมบดเป็นผงบรรจุแคปซูลก็ได้

ขิง หวัด

ขิง หวัด

 

ขิง เป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นหอม และมีรสร้อน ช่วยทำให้รู้สึกโล่งเวลารับประทาน ลดอาการเป็นหวัด แก้ไอ ขับเหงื่อ ลดไข้ ทำให้หายใจโล่ง และขับลมภายในท้อง สามารถรับประทานสด หรืออาจใช้เป็นขิงแห้ง หรือบดเป็นผงนำมาชงดื่มเพื่อรักษาอาการได้

 

 

ใบกระเพรา เป็นสมุนไพรอีกชนิดที่น่าสนใจ เพราะนอกจากมันจะมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยทำให้จมูกโล่งได้แล้ว กระเพรายังมีสรรพคุณฆ่าเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ทำให้อาการไม่สบายดีขึ้นได้เร็ว สามารถใช้ได้ทั้งสดและแห้ง

นี่เป็นสมุนไพรที่ควรทำความรู้จัก เพื่อที่เราจะได้ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยไม่สบายในยามฝนมาฟ้ามืด อากาศเปลี่ยนรวดเร็ว และที่สำคัญควรรักษาสุขภาพ อย่าดีใจถึงขนาดเห็นฝนตกลงมาแล้วไปยืนตากฝนฉลองเลย มันเสี่ยงที่จะไม่สบายเปล่าๆ

ก.ย. 232012
 

จะสั่งข้าวที เวลานึกอะไรไม่ออกเรามักจะสั่ง กระเพราไข่ดาวจานนึง บางคนอาจจะบอกเราสิ้นคิด แต่ด้วยรสชาติที่ถูกปากคนไทย ใครจะว่าก็ไม่เป็นไร หนำซ้ำกระเพรายังมีคุณค่าของ สมุนไพรไทย มากมายอีกด้วย

กระเพรา สมุนไพรไทยกระเพรา
ชื่อวิทย์ Ocimum sanctum, Linn.
ชื่อวงศ์ Fam. : MALVACEAE

ชื่ออื่น
กระเพราแดง, กระเพราขาว (ภาคกลาง)
ก่ำก้อขาว , ก่ำก้อดำ, กอมก้อขาว, กอมก้อดำ (เชียงใหม่-ภาเหนือ)
ห่อตูปลา, ห่อกวอซู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน

ลักษณะโดยทั่่วไป
ลำต้น เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูง ประมาณ 30-120 เซนติเมตร โคนของลำต้น เนื้อไม้แข็ง มีขน มีกลิ่นหอม
ใบ ใบสีเขียว เรียกว่า กะเพราขาว ใบสีแดงเรียกว่า กะเพราแดง ใบของมันมีขนโดย เฉพาะส่วนที่เป็นยอด
ของมันจะมีมากกว่าส่วน อื่น ๆ ใบมีกลิ่นหอม
กิ่ง กิ่งก้านเป็นรูปสี่เหลี่ยม ส่วนปลายของ มันจะอ่อน
ดอก ดอกออกเป็นช่อ ตั้งขึ้นไปเป็น ชั้น ๆ คล้ายรูปฉัตร กลีบดอกกะเพราขาว มีสีขาว แต่ ถ้าเป็นกะเพราแดง มีสีชมพูอมม่วง
เมล็ด เมื่อแก่หรือแห้ง เมล็ดจะเป็นสีดำ อยู่ข้างในซึ่งหุ้มด้วยกลีบเลี้ยงของมัน
การขยายพันธุ์ ใช้เมล็ด หรือลำต้น ใน การขยายพันธุ์ได้ ปลูกขึ้นดีในดินร่วนซุยน้ำ น้อย
ส่วนที่ใช้ ใบ, เมล็ด, ราก
สรรพคุณ
ใบ ใบสดของมัน มีน้ำมันหอมระเหยอยู่ ซึ่ง ประกอบด้วย linaloo และ methyl chavicol เป็นยาแก้ขับลม ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ปวดท้อง บำรุงธาตุ ขับผายลม แก้อาการจุกเสียดในท้อง ให้ใช้ใบสด หรือยอดอ่อน สัก 1 กำมือ มาต้ม ให้เดือด แล้วกรอง
เอาน้ำดื่ม แต่ถ้าใช้กับเด็ก ทารกให้นำเอามาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำนำมา ผสมกับน้ำยามหาหิงคุ์แล้วใช้ทาบริเวณ รอบ ๆ
สะดือ และทาที่ฝ่าเท้า แก้อาการปวดท้องของ เด็กได้ และน้ำที่เราเอามาคั้นออกจากใบยังใช้ ขับเสมหะ ขับเหงื่อ หรือ
ใช้ทาภายนอกแก้โรค ผิวหนัง กลาก เกลื้อนได้ นอกจากนี้ ใบสดยังนำมาผัด หรือนำมาแกงเป็นอาหาร ได้อีกด้วย สำหรับ
ใบแห้ง ใช้ชงกินกับน้ำ แก้ท้องขึ้น และน้ำมันที่ได้จากใบกะเพรานั้น สามารถยับยั้งการเจริญเติมโตของเชื้อโรคบางชนิด
ช่วยฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางอย่าง และมีฤทธิ์ฆ่ายุงได้ ซึ่งจะมีฤทธิ์ได้นาน 2 ชั่วโมง
เมล็ด เมื่อนำไปแช่น้ำเมล็ดก็จะพองตัวเป็นเมือก ขาว ให้ใช้พอกในบริเวณตา เมื่อตามีผง หรือฝุ่น ละอองเข้า ผงหรือฝุ่นละออง
นั้นก็จะออกมา ซึ่งจะไม่ทำให้ตาเรานั้นช้ำอีกด้วย
ราก ใช้รากที่แห้งแล้ว ชงหรือต้มกับน้ำร้อนดื่ม แก้โรคธาตุพิการ

ขอบคุณข้อมูลจากสถาบันการแพทย์แผนไทย